ททท.เชียงรายชวนเที่ยวหน้าฝน “เที่ยวฉ่ำหน้าฝนที่เชียงราย”


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย พาสื่อสวลชนเชียงใหม่และกลุ่มบล็อกเกอร์เที่ยวฉ่ำหน้าฝนกันที่ เชียงราย-พะเยา


นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ซึ่งรับผิดชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในด้านการส่งเสริมการตลาดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงรายและพะเยา ได้นำทีมสื่อสวลชนเชียงใหม่และกลุ่มบล็อกเกอร์เที่ยวฉ่ำกันที่เชียงราย เริ่มต้นกันที่ ร้าน Yayo Coffee Farm เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนหุบเขา บนดอยช้าง อ.แม่สรวย เชียงราย บรรยากาศที่สบายๆยามหน้าฝนทางร้านได้ทีการโชว์ทำกาแฟสดๆให้เราได้ชม ได้ชิม กันอีกด้วย ใครที่ชอบกาแฟไม่ควรพลาด กับร้านนี้




จากนั้นเราได้เดินทางกันไปต่อไปชมวิถีชีวิตของชาวดอยวาวี ไปเก็บชาสดๆจากต้น ซึ่งไร่ที่ทาง ททท.เชียงรายพาไปนั้น ทางไร่ได้รับรางวัลชาชนะจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชานั้นปลูกอยู่บนดอยสูงเดินทางค่อนข้างลำบาก จะต้องใช้รถกระบะเข้าไปในไร่ชา บรรยากาศในไร่ชาเป็นป่าเขา เป็นแหล่งต้นต้นน้ำที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ทางไร่ได้จัดให้ทางคณะสื่อมวลชนและกลุ่มบล็อกเกอร์ ได้ชิมชาท่ามกลางน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆไร่ชาอีกด้วย เป็นบรรยากาศที่ดีมาก






















เช้าวันต่อมาทางคณะเราได้เดินทางไปกันต่อที่โครงการพัฒนาดอยตุงอ.แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในอดีตดอยตุงนั้น เป็นดอยสีน้ำตาลแห้งแล้ง ไม่มีไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ชาวบ้านในพื้นที่อยู่อย่างยากลำบาก ไม่มีสัญชาติ ไม่มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน และไม่ได้รับการศึกษา จึงต้องหาทางรอดด้วยการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย เช่น ถางป่า ทำไร่เลื่อนลอย และปลูกฝิ่น จนกระทั่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) เสด็จมายังดอยตุง และทรงมีพระราชดำรัสว่า “ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง” หลังจากนั้นรัฐบาลจึงได้เริ่มจัดทำ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้น โดยทำการปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ พร้อมกับดึงชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาทำงาน ฝึกฝนทักษะอาชีพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่คนทุกกลุ่มในพื้นที่ ผ่านธุรกิจเพื่อสังคม 5 ประเภท ได้แก่ หัตถกรรม เกษตร อาหารแปรรูป คาเฟ่ และท่องเที่ยว




ทั้งยังเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ปัจจุบันมีสวนไม้ดอกไม้หลากสีสันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บนพื้นที่ 25 ไร่ ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ดูแลอย่างดี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี รวมถึงมีไม้มงคล ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลี้อยมากกว่า 70 ชนิด มีดอกสวยงามมาก ยังมี“คาเฟ่ดอยตุง” สามารถนั่งพักชมวิวจิบกาแฟในสวนได้ด้วย ไฮไลท์อีกอย่างของทางสวนคือไอศกรีมรูปตัวโต รสชาไทย มาถึงดิยตุงต้องมาลอง


จากดอยตุงมาอีกหร่อยก็มาเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวลาหู่ดำ เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่สมเด็จย่าเข้ามาพัฒนาหมู่บ้านนี้ ปัจจุบันชาวบ้านก็ทำไร่ ส่งบนดอยตุง




สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี ชาวบ้านได้นำของกินที่ขึ้นชื่อมาให้ได้ชิมด้วยพร้อมกาแสดงจากชาวลาหู่ดำที่หาชมได้ยากแล้ว






อีกหนึ่งจุดที่สวยของเชียงรายก็คือดอยผาฮี้ ที่มีร้านกาแฟและบ้านพักให้ได้ขึ้นมาท่องเที่ยวและพักผ่อนกับอากาศที่เย็นสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป ถ้ามาช่วงหน้าฝนอาจจะได้เจอหมอก สวยงามไปอีกแบบ








สถานที่ต่อไปไร่รื่นรมย์ เกษตรอินทรีย์ ศึ่งทางไร่ได้รับรางวัลดีเด่น Thailand Tourism Silver Awards 2566 สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ทางคณะได้เดินชมไร่และร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ผ่านไร่เกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน และมีชา กาแฟ ขนมหวาน ไอศกรีมที่ทางไร่ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนอีกด้วย













จากเชียงรายทางคณะเราได้เดินทางกันต่อที่จังหวัดพะเยา ไปชมความสวยงามของภูลังกา-ผาช้างน้อย ตั้งอยู่ที่ อ.ปง จ.พะเยา จุดชมวิวผาช้างน้อย มีลักษณะเป็นที่ราบคล้ายลานกว้าง จะเห็นภูเขาลูกหนึ่งโผล่ขึ้นมาบริเวณรอบๆ โดยจะมีภูเขาลอยรอบอยู่ จากจุดชมวิวหรือที่พักใกล้ๆ สามารถมองเห็นหมอกที่ลอยปกคลุมไปทั่วบริเวณ และความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องมาชมกัน บริเวณจุดชมวิวมีเปิดให้บริการทั้งที่พักสวยๆชมวิวผาช้างน้อย และร้านอาหารคาเฟ่ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว สำหรับการเดินทางไปยังจุดชมวิวภาช้างน้อย ซึ่งจุดชมวิวตั้งอยู่บนภูเขา ริมทางหลวงหมายเลข1148 (ท่าวังผา.เชียงคำ) ใกล้ๆหลักกิโลเมตรที่ 70 ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา ห่างจากแหล่งท่องเที่ยภูลังกาประมาณ 25-30 กิโลเมตร










จากผาช้างน้อยทางคณะได้เดินทางกันต่อไปยังชุมชนโบราณบ้านเวียงลอ ได้ชมการทำขนมโบราณจากชาวบ้านและได้นั่งรถซาเล้งชมเมืองโบราณเวียงลอ จุดเด่นของหมู่บ้านนี้คือซาลาเปาที่ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียง
















จากนั้นเข้าวัดสายมูกันต่อ ที่วัดป่าพุทธชินวงศาราม หรือวัดม่อนพญานาค ซึ่งพญานาคมีความยา ที่สามารถมาขอพรได้เรื่องการงาน โชคลาภ กันได้




ไปต่อกันอีกวัดกับความสวยงามของวัดนันตาราม แคมเปญ“ซึ่งเป็น25UNSEEN New Series” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมหัศจรรย์ของเมืองไทย25 แห่ง อีกด้วย อีกหนึ่งสถานที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนเมืองพะเยา








ก่อนกลับ ทางคณะได้ไปเที่ยวชม “เฮือนไตลื้อ” สิบสองปันนาของแม่แสงดา จ.พะเยา บ้านหรือเฮินไตลื้อแม่แสงดาที่สร้างเพื่อ พ.ศ.2489 ในปัจจุบัน เฮือนไทลื้อเก่าแก่ ที่มีแม่แสงดา ที่อายุมากแต่ยังแข็งแรงและยิ้มแย้มแจ่มใส พาชม เล่าเรื่องราวต่างๆ ในบ้าน รวมถึงงานผ้า ที่แม่แสงดาทำมาแต่เด็ก มีเสื้อเก่าอายุนับร้อยปีเป็นต้นแบบ








เฮือนไตลื้อสวยๆที่ยังคงสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของชาติพันธุ์ไตลื้อ และเป็นเรือนแห่งเดียวในจังหวัดพะเยา


ทางด้าน นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ซึ่งรับผิดชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในด้านการส่งเสริมการตลาดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงรายและพะเยา กล่าวว่าเชิญชวนให้มาเที่ยว ในช่วงฤดูฝนหรือช่วง Green Season เป็นอีกช่วงหนึ่งที่จังหวัดเชียงราย และพะเยา เป็นเมืองน่าเที่ยวที่มีความสวยงามของธรรมชาติ ป่าเขา ทุ่งนาเขียวขจี ในบรรยากาศที่เงียบสงบ สดชื่น ชุ่มฉ่ำ สบายตา อากาศดีเย็นสบาย มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน มาค้นหาความสุขกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าท่ามกลางทะเลหมอกหลังฝน ซึ่งทั้งสองเมืองนี้งดงามไม่แพ้ที่ใดๆ และนอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปะวัฒนธรรม และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้ทุกท่านได้มาเรียนรู้ในวิถีชุมชน ดื่มด่ำกับความสุขการจิบชา-กาแฟยามเช้าท่ามกลางธรรมชาติ และสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน การนวด-สปา และชิมเมนูอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นในจังหวัดเชียงราย และพะเยา





และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว และเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพะเยา ให้ท่องเที่ยวได้ทั้ง 365 วันตามนโยบายของรัฐบาล และ ภูมิภาคภาคเหนือ ททท. ได้กระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคเหนือ 17 จังหวัด ภายใต้แคมเปญ “แอ่วเหนือให้ฉ่ำ” โดย ททท.สำนักงานเชียงราย ได้ร่วมกับภาคเอกชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งในจังหวัดเชียงราย และพะเยา จัดโครงการท่องเที่ยวทั้ง 2 จังหวัด ภายใต้แคมเปญ “เที่ยวฉ่ำยามหน้าฝนที่เชียงราย” หรือ Amazing Chiang Rai in Green Season และแคมเปญ “สุขทันทีที่เที่ยวพะเยา In Green Season ในห้วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2567 นี้




เที่ยวฉ่ำยามหน้าฝนที่เชียงราย ททท. สำนักงานเชียงราย ร่วมกับ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ“เที่ยวฉ่ำยามหน้าฝนที่เชียงราย” โดยนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยว เชิญชวนมาท่องเที่ยวสัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวในเส้นทางความสุขที่หลากหลายในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อาทิเช่น เส้นทางท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เส้นทางเยี่ยมบ้านศิลปิน เส้นทางจิบชาและกาแฟ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน ในช่วง Green Season โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด ที่พักค้างในโรงแรมที่ร่วมกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายกว่า 40 แห่ง รับ “ฟรี” คูปองเป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในสถานประกอบการที่ร่วมกิจกรรม ได้แก่ ร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร สปา กิจกรรมท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน รวมจำนวนกว่า 80 แห่ง ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าพักโรงแรมที่พักในจังหวัดเชียงราย จำนวน 3,000 สิทธิ์ ตามเงื่อนไขที่ ททท. กำหนด ในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567