เชียงใหม่ แถลงความคืบหน้าการดำเนินงานเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะ ตามแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 7 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุมวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รายงานความคืบหน้า ตามแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งตรวจราชการ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
ซึ่งมีการผลักดันการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ น้ำตกห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อุทยานหลวงราชพฤกษ์วัดพระธาตุดอยคำและโบราณสถานเวียงกุมกาม .
นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อคราวที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ)มาตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 – 8 มกราคม 2567 ได้มอบนโยบายในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนมีการเชื่อมโยง กับแหล่งคมนาคม (ทางบก ทางราง ทางอากาศ) แหล่งพาณิชยกรรม แหล่งสินค้าและบริการ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว อีกด้วยทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารบริษัทชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด ได้ร่วมหารือในการจัดให้มีรถโดยสาร เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยว7 แห่ง เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีระบบขนส่งสาธารณะที่มีโครงข่ายเชื่อมโยง และครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทางของประชาชน รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะจะต้องเข้าถึงง่าย สะดวก และปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวได้
บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด จึงได้จัดหารถมาให้บริการในรูปแบบ Hop & Go เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 แห่ง โดยได้กำหนดเส้นทางเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวไว้ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางน้ำตกห้วยแก้ว-เวียงกุมกาม และเส้นทางเซ็นทรัลเชียงใหม่-น้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งเส้นทางทั้ง 2 เส้นทาง ผู้ประกอบการได้เริ่มทดลองให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นมา เพื่อให้เป็นทางเลือกในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ของประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งการจัดให้บริการรถโดยสารสาธารณะถือเป็นเป้าหมายและนโยบายสำคัญของกรมการขนส่งทางบกในการพัฒนารถโดยสารสาธารณะในส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ การท่องเที่ยวในรูปแบบ HOP ON HOP OFF ยังเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับจังหวัด และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่อย่างแท้จริง
โดยในเดือนพฤษภาคม HOP&GO จะมีการพัฒนาระบบในการติดตามตำแหน่งรถ “Live Map” ที่นักท่องเที่ยวสามารถดูตำแหน่งปัจจุบันของรถ HOP&GO ผ่านระบบมือถือได้อีกด้วย และยังมีการนำระบบการชำระเงินอัติโนมัติเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวซึ่งสามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ QR CODE ได้ โดยนักท่องเที่ยว สามารถซื้อแพ็คเกจบัตรโดยสารได้ 3 ช่องทาง ที่ www.HOPandGO.co ซื้อได้ที่พนักงานขับรถบนรถโดยสาร HOP&GO หรือสแกน QR CODE หรือชำระเป็นเงินสดได้ และซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย (HOP&GO Travel Agent)
โดยปัจจุบัน HOP&GO ได้มีการเปิดให้บริการทั้งหมด 4 เส้นทาง ได้แก่
1) HG1 สายสีชมพู เส้นทาง อ.แม่ริม ให้บริการในวันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัสฯ วันเสาร์
2) HG2 สายสีน้ำเงิน เส้นทาง อ.แม่ออน ให้บริการในวันอังคาร วันศุกร์ วันอาทิตย์
3) HG3 สายสีเขียว เส้นทางเวียงกุมกาม ให้บริการทุกวัน
4) HG4 สายสีแดง เส้นทางรอบเมือง ให้บริการทุกวัน