กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า บก.คฟป.ทภ.3 สน. จัดชุดลาดตระเวนลงพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า

0

กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จัดชุดลาดตระเวน 30 นาย ลงพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม และพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยอากาศยาน MI-17 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า พร้อมขอความร่วมมือ 17 จังหวัดภาคเหนือ งดการเผาในที่โล่ง

พลตรีประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานปล่อยชุดลาดตระเวนและดับไฟป่า 3 ชุด ชุดละ 10 นาย ประกอบด้วย ชุดลาดตระเวนและดับไฟป่ามณฑลทหารบกที่ 33, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 เพื่อลาดตระเวน ป้องปราม เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ลักลอบเผาป่าโดยเฉพาะในห้วงเดือนมีนาคม นี้

ในการนี้รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับชุดลาดตระเวนก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติภารกิจตามแผน ซึ่งชุดลาดตระเวนและดับไฟป่ามณฑลทหารบกที่ 33 จะได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ด้วยรถยนต์ ส่วนกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 เข้าพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง และชุดลาดตระเวนและดับไฟป่าจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 เข้าพื้นที่ อำเภอแม่แจ่ม โดยการบรรทุกอากาศยาน MI-17 ซึ่งเป็นจุดที่ไม่สามารถนำยานพาหนะลำเลียงกำลังพลเข้าไปได้ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่แจ่มที่พบค่าฝุ่นละอองสูง และพบจุดความร้อน ซึ่งคาดว่าเป็นพื้นที่สูง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ นอกจากนี้ยังมีชุดลาดตระเวนและดับไฟป่า กรมทหารราบที่ 7 กองพันทหารราบที่ 2 ซึ่งได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอเชียงดาวแล้ว

รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ตั้งแต่ วันที่ 1 ธันวาคม 2564 จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมามาก

แต่ในช่วง 1 สัปดาที่ผ่านมา พบจำนวนจุดความร้อนและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น และเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชน จึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนและการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันติดตามเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟขึ้นในพื้นที่ป่า และประสานความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกาศให้งดการเผาในที่โล่งในช่วงนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ