นิสสัน ส่งนาวารา ลุยภารกิจพิชิตไฟป่า เสริมทัพทีม “เหยี่ยวไฟ” ภายใต้กิจกรรม “NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง”

0

เชียงใหม่, ประเทศไทย (24 กุมภาพันธ์ 2565) นิสสัน ประเทศไทย จัดโครงการพิเศษ “NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง” ส่งมอบนิสสัน นาวารา PRO-4X กระบะกล้าเพื่อคนแกร่ง พร้อมเครื่องเป่าลมแบตเตอรี่ สำหรับดับและไล่ไฟป่า ให้แก่ชุดปฏิบัติงานพิเศษเหยี่ยวไฟ เพื่อภารกิจควบคุมเพลิงตามแนวป่าได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เสริมกำลังพิชิตภารกิจพิทักษ์ทรัพยากรป่า บรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศ

จากข้อมูลด้านสถานการณ์ไฟป่าในประเทศไทยพบว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ป่าเขาเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ สัตว์ รวมถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความรุนแรงในทุกปี มีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายปีละกว่าแสนไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการเกิดไฟป่าขึ้นมากที่สุดในภาคเหนือ ประกอบกับสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวดเร็ว และเป็นบริเวณกว้างนั้น ไม่สอดคล้องกับจำนวนเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก อีกทั้งยังขาดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที จนเกิดการลุกลาม ส่งผลต่อการสูญเสียทรัพยากรป่า และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง ทั้งทางด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ

มร.มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย นิสสัน ประเทศไทย

มร. มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า
“นิสสัน ประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญของภารกิจควบคุมไฟป่า ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพอากาศและคุณภาพชีวิต    ที่ดีของประชาชนจึงได้จัดตั้งภารกิจพิเศษ NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของนิสสันที่จะช่วยสนับสนุนชุดปฏิบัติงานพิเศษทีม “เหยี่ยวไฟ” จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานป้องกันและควบคุมเพลิงตามแนวป่า ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า โดยการสนับสนุน นิสสัน นาวารา PRO-4X จำนวน 2 คัน สำหรับใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าจุด Hot spot ที่ยากลำบาก     ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยการเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ   ที่ใช้งานง่าย ทำให้สามารถพาเจ้าหน้าที่เดินทางไปได้ทุกเส้นทางทั้งออนโรด และออฟโรดที่สมบุกสมบัน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเขาที่สูงชัน หรือเส้นทางที่ต้องขับลุยผ่านทางน้ำต่าง ๆ ซึ่งไม่มีถนนเข้าถึง พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ อำนวยความสะดวกให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น อาทิ กล้องมองรอบคันในโหมด off-road     ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่มองเห็นสภาพพื้นผิวเส้นทาง และทัศนวิสัยรอบรถได้ครบ 360 องศา สามารถลุยไปได้ทุกพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟป่า อย่างมั่นใจและปลอดภัย พร้อมเป็นผู้ช่วยสำคัญของทีมเหยี่ยวไฟ สำหรับทุกภารกิจ  นอกจากนี้  นิสสันยังได้มอบเครื่องเป่าลมแบตเตอรี่  (Battery Powered Blower)  เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ดับและไล่ไฟป่า จำนวน 5 ชุด ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยการใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันเบนซิน ทำให้มีน้ำหนักเบา ปลอดภัย  สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติภารกิจควบคุมไฟป่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปลอดภัยและรวดเร็วขึ้น”

นางสาวจันทร์เพ็ญ เกษตรสินธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่

ทางด้าน นางสาวจันทร์เพ็ญ เกษตรสินธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟเชียงใหม่ กล่าวว่า “จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นพื้นที่ที่เกิดไฟป่าเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย หากพิจารณาจากสถิติจะพบว่า ในปี 2564 ประเทศไทยมีพื้นที่เกิดเหตุไฟป่าทั้งหมด 100,704 ไร่ โดยเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ 84,418 ไร่ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่เกิดไฟป่าเฉลี่ย 33,369 ไร่ ต่อปี หรือประมาณ 39% ของพื้นที่เกิดเหตุของภาคเหนือทั้งหมด อีกทั้งไฟป่าได้มีการลุกลามและกินระยะเวลานานขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิม 2 เดือนต่อปี ปัจจุบันนานถึง 4 เดือนต่อปี นับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับประเทศที่เรื้อรัง        โดยส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ในสังคม สร้างมลพิษทางอากาศ ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน โดยพบว่า ประชาชนชาวเชียงใหม่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเผยให้เห็นว่าคนเชียงใหม่เป็นมะเร็งปอดสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย

ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟเชียงใหม่ ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่จำนวน 20 คน ที่นอกจากจะต้องดูแลพื้นที่กรมป่าไม้ทั้งหมดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเกิดไฟป่าปีละไม่ต่ำกว่า 1,305 ครั้ง แต่ละครั้งกินพื้นที่ไม่น้อยกว่า 20 ไร่ ทุกปีทีมเหยี่ยวไฟต้องปฏิบัติหน้าที่หลากหลายและทำงานอย่างหนักทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน และปฏิบัติภารกิจประสานงานเพื่อดับไฟป่า รวมถึงการสนธิกำลังกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ต่าง ๆ ดูแลงานบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งอบรมให้ความรู้แก่ชาวบ้านเรื่องไฟป่าอีกด้วย  

ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในแต่ละครั้ง คือ สภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นพื้นที่เขาสูงชันยากต่อการเข้าถึง ด้วยสมรรถนะของนิสสัน นาวารา PRO-4X กระบะที่สามารถบุกลุยไปได้ทุกเส้นทางจึงเหมาะสมสำหรับการเข้าถึงพื้นที่สมบุกสมบันได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดความรุนแรงและการลุกลามของไฟได้อย่างเร็วที่สุด พร้อมมีพื้นที่ใช้สอยในการขนส่งและบรรทุกอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน และยังขาดแคลนอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับและสร้างแนวกันไฟ อีกทั้งอุปกรณ์ที่มีอยู่ก็มีประสิทธิภาพจำกัด เช่น เครื่องเป่าลมระบบน้ำมัน ที่จะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งละ 2-3 ชั่วโมง และมีน้ำหนักมาก จึงส่งผลให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่คล่องตัว จนบางครั้งก็ได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟ ทำให้การปฏิบัติภารกิจแต่ละครั้งใช้เวลานาน เฉลี่ย 5 ชั่วโมง – 2 วัน และบางภารกิจไม่สามารถดับไฟได้ตามเป้าหมาย

“จากการสนับสนุนจาก นิสสัน ประเทศไทย ที่มอบรถกระบะ นิสสัน นาวารา PRO-4X และอุปกรณ์สำหรับดับและไล่ไฟป่า เครื่องเป่าลมแบตเตอรี่ (Battery Powered Blower) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรถนิสสัน นาวารา ที่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุในเส้นทางที่ยากจะเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยสมรรถนะของรถ ทำให้สามารถเดินทางบุกลุยเข้าถึงพื้นที่ในป่าได้ในทุกสภาพเส้นทาง ไปถึงยังจุด Hot Spot ได้รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ นอกจากนี้ ยังมีการปรับแต่งเสริมสมรรถนะให้เหมาะสำหรับการปฏิบัติงานในภารกิจดับไฟและการสร้างแนวกั้นไฟมากขึ้น ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกของการปฏิบัติงานให้ได้อย่างต่อเนื่องยาวนานขึ้น สามารถจบภารกิจได้รวดเร็วและปลอดภัย ลดความเหนื่อยล้าจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้มากยิ่งขึ้น” นางสาวจันทร์เพ็ญ กล่าวเสริม สำหรับ นิสสัน นาวารา PRO-4X กระบะกล้าเพื่อคนแกร่ง ที่นิสสัน ประเทศไทย ได้ทำการส่งมอบเพื่อใช้ในภารกิจ จำนวน 2 คันนั้น เป็นรถกระบะด้วยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ อีกทั้งช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่  พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4×4 (4WD) ที่ใช้งานง่าย ลุยไปได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อเพื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ผ่าน NissanConnect ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ ระบบนำทาง (Navigation system) หรือ แอปพลิเคชันฟังเพลงต่าง ๆ ผ่านหน้าจอเครื่องเสียงรถยนต์ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และยังสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน NissanConnect Service บนสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อและดูข้อมูลของรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน เติมเต็มการใช้งานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยมีฟังก์ชั่นเด่น ๆ อาทิ การแสดงพิกัดรถยนต์ สถานะรถยนต์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน และประวัติการขับขี่  เป็นต้น

นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอแม่ออน
นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ