ท่าอากาศยานเชียงใหม่ คัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ เสริมประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของรัฐอย่างเคร่งครัด

0

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งฯ ที่ 40/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดงตามที่ ศบค.กำหนด จำนวน 17 จังหวัด ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ CM-CHANA และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับแจ้งจาก SMS รวมทั้งต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที เพื่อ “คุมไว้สังเกต” (Control for observation)

ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เป็นระยะเวลา 14 วัน ว่าท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และสายการบินต่างๆ ได้ผนึกกำลังในการปฏิบัติหน้าที่คัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสารการบินจะแจ้งผู้โดยสารดำเนินการลงทะเบียนผ่าน CM-CHANA ตั้งแต่สถานีต้นทาง และเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ จะมีเจ้าหน้าที่ Airport Help ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้โดยสารในการลงทะเบียน เข้าพื้นที่ผ่าน CM-CHANA อีกครั้ง จากนั้นให้ผู้โดยสารนำข้อความที่ได้รับตอบกลับทาง SMS ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคฯ ณ จุดคัดกรอง และรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคฯ กรณีที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง

ซึ่งเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคฯ จะจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นแก่ผู้เดินทาง ได้แก่ แบบบันทึกการประเมินตนเองสำหรับผู้เดินทางที่กลับมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (แบบ ชม.3) และหนังสืออนุญาตให้เดินทางออกจากที่อยู่อาศัย กรณีคุมไว้สังเกต (แบบ ชม.4) รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ (จพต.) พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารจะลดน้อยลง จากเดิมก่อนหน้านี้เฉลี่ยวันละ 12,000 คน เหลือเพียงวันละกว่า 2,000 คน แต่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ยังคงปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการทำความสะอาดพื้นที่ผิวสัมผัสต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกชั่วโมง การจัดระยะห่างการให้บริการในขั้นตอนต่างๆ รวมถึงบนรถบัสที่นำผู้โดยสารไปขึ้นเครื่อง พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือผู้โดยสาร ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และหากมีอาการป่วยหรือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ให้งดเว้นการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะหากปกปิดจะมีความผิด อาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ