จังหวัดลำพูนเปิดตัว “ข่วงเมืองลำพูน” เปิดพื้นที่ศิลปะสาธารณะต้นแบบ “ข่วงติดล้อ” ปลุกชีวิตเมืองเก่า ดันลำพูนสู่ Creative Cultural District ของประเทศไทย

129731_0

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ณ Temple House Lamphun โครงการ “ข่วงเมืองลำพูน” (Lamphun Town Square) ได้เปิดตัวพื้นที่ศิลปะสาธารณะต้นแบบ “ข่วงติดล้อ” อย่างเป็นทางการ หลังได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 พื้นที่ต้นแบบ Creative Cultural District ของประเทศไทย โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) นับเป็นก้าวสำคัญในการพลิกฟื้นชีวิตเมืองเก่าลำพูนด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือของทุกภาคส่วน

โครงการนี้ขับเคลื่อนโดยจังหวัดลำพูน เทศบาลเมืองลำพูน ชุมชนศรีบุญเรืองและพื้นที่ใกล้เคียง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิสาหกิจเพื่อสังคม ลำพูน ซิตี้ แลป และชวนหลงเซรามิค โดยมุ่งเน้นพัฒนาบริเวณศาลากลางเก่าจังหวัดลำพูน ซึ่งถูกทิ้งร้างมานานกว่า 3 ปีหลังหน่วยงานราชการย้ายออก ส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นซบเซา และเมืองเก่าขาดกิจกรรมดึงดูดผู้คน โครงการจึงใช้ศิลปะสาธารณะและพื้นที่ใช้สอยแบบกึ่งถาวรเป็น “เครื่องมือฟื้นเมือง” เชื่อมโยงถนนอินทยงยศ พื้นที่ชุมชน พื้นที่จัดกิจกรรม และระบบขนส่งสาธารณะในอนาคต

คุณอาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมสินค้าและบริการสร้างสรรค์ สำนักงาน CEA กล่าวว่า ลำพูนเป็นเมืองเดียวในโครงการที่นำเสนอแนวคิดฟื้นฟูเมืองผ่านศิลปะสาธารณะอย่างเป็นระบบ “‘ข่วงติดล้อ’ ไม่ได้เป็นเพียงศิลปะกลางแจ้ง แต่เป็นเครื่องมือ Hack เมือง เชื่อมพื้นที่สำคัญ กระตุ้นให้คนเดิน สำรวจ และเห็นศักยภาพใหม่ของพื้นที่ที่คุ้นตา” พร้อมระบุว่าลำพูนคือหลักฐานว่า “ความสร้างสรรค์สามารถเปลี่ยนพื้นที่จริงได้” และเป็นต้นแบบที่เมืองอื่นสามารถเรียนรู้ได้

ด้าน ผศ.ดร.จาตุรงค์ โพคะรัตน์ศิริ หัวหน้าโครงการและผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ศาลากลางเก่าลำพูนเป็นทั้งวิกฤตและโอกาสสำคัญ งานศิลปะสาธารณะ “ข่วงติดล้อ” ต่อยอดจากทุนวิจัยเวียงศิลปะหละปูนของ บพท. ปี 2566 ศึกษาการเข้าถึงพื้นที่ด้วยเทคโนโลยี Space Syntax และการทำ Focus Group กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในรัศมี 500 เมตร พบว่าประชาชนลำพูนต้องการให้พื้นที่กลับมามีชีวิต ปลอดภัย เข้าถึงง่าย รองรับกิจกรรมท้องถิ่นและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันเยาวชนต้องการพื้นที่สร้างสรรค์และพื้นที่เรียนรู้ ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ร่วมว่า “ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ข่วงจะกลับมาเป็นข่วงของเมืองจริง ๆ”

เพื่อตอบโจทย์นี้ ทีมโครงการได้จัดกิจกรรมมีส่วนร่วม “ลองเพ๊นท์” ในช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน 2568 เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยร่วมเพ้นท์เซรามิกในงานตลาดวัฒนธรรม ข่วงพันปี ถนนรถแก้ว จากนั้นนำผลงานไปเผาเคลือบที่เตาชวนหลงและติดตั้งรอบศาลากลางเก่าภายใต้ชื่อ “ข่วงติดล้อ” ติดตั้งใน 3 จุดสำคัญ ได้แก่

1. รั้วถนนอินทยงยศ บริเวณศาลาประชาคมเดิม

2. ประตูรั้วฝั่งถนนแว่นคำ

3. รั้วตำหนักเจ้าแม่จามเทวี ถนนราชวงศ์

พร้อมติดตั้งไฟโซลาร์เซลล์เพื่อสร้างความสว่างยามค่ำคืน ทำให้งานศิลปะเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายมองเห็นได้ทั่วเมืองเก่า เกิดเส้นทางเดินชมเมืองใหม่ตั้งแต่พระธาตุหริภุญชัยฯ ถนนรถแก้ว เรือนลำพูนเก่า พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง ไปจนถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย ช่วยคืนชีวิตชีวาให้ลำพูนและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

โครงการ “ข่วงเมืองลำพูน” ถือเป็นต้นแบบสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเมืองด้วยศิลปะสาธารณะและการมีส่วนร่วมของชุมชนสามารถสร้างผลกระทบเชิงพื้นที่ได้จริง และกำลังปูทางให้ศาลากลางเก่าเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งสร้างงานสำหรับคนรุ่นใหม่ และแลนด์มาร์กต้อนรับนักท่องเที่ยวในอนาคต

โครงการขอเชิญประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้สนใจ

ร่วมชมพื้นที่ศิลปะสาธารณะ “ข่วงติดล้อ”

เก็บภาพ เช็กอิน 3 จุดรอบศาลากลางเก่า

และสัมผัสลำพูนในมุมมองใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ติดตามข้อมูลได้ที่

Facebook Page: ข่วงเมืองลำพูน

#ข่วงติดล้อ #ข่วงเมืองลำพูน #CreativeCulturalDistrict #Lamphun #ต้นแบบพื้นที่สร้างสรรค์ #SoftPowerไทย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ