ไฮไลฟ์ เปิดตัวสองเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ “Hylife Hackathon 2025” และ “Hylife Innovation Excellence Awards 2025”

0

กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ เปิดตัวสองเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ “Hylife Hackathon 2025” และ “Hylife Innovation Excellence Awards 2025” ขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่เมืองแห่งนวัตกรรม พร้อมเงินรางวัลและโอกาสในการร่วมลงทุนกว่า 7 ล้านบาท

เชียงใหม่, 30 มิถุนายน 2568 – กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ (Hylife Group) ประกาศเปิดตัวสองเวทีการแข่งขันนวัตกรรมระดับนานาชาติครั้งใหญ่แห่งปี ได้แก่ “Hylife Hackathon 2025” และ “Hylife Innovation Excellence Awards 2025” โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งภูมิภาค และสร้างระบบนิเวศธุรกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน พร้อมมอบเงินรางวัลและเงินร่วมลงทุนมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท รวมถึงโอกาสในการต่อยอดธุรกิจกับกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์

การแถลงข่าวครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ นำโดย นายดานูซ รามาซานแดรน แนร์ (Mr. Dhanush Ramachandran Nair) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ ลิน กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ ร่วมด้วยตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในวงการนวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศ

นายดานูซ รามาซานแดรน แนร์ (Mr. Dhanush Ramachandran Nair) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ เปิดเผยว่า “การจัดงานทั้งสองเวทีนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ในการขับเคลื่อนเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งใหม่ของภูมิภาค แม้ทั้งสองเวทีจะมีรูปแบบการแข่งขันที่แตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และโอกาสทางธุรกิจ เพื่อยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

Hylife Hackathon 2025 เป็นเวทีการแข่งขันด้านการสร้างไอเดีย พัฒนาโซลูชัน แพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์ ระดับนานาชาติ ที่กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2568 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักประกอบด้วย นักพัฒนาซอฟต์แวร์ โปรแกรมเมอร์ นักออกแบบ UX/UI และนักศึกษาสาขาเทคโนโลยี รวมถึงผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผู้สมัครสามารถลงทะเบียนเป็นทีมขนาด 3-5 คน ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกจำนวน 16 ทีม จะได้รับการฝึกอบรมในด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business Strategy) การพัฒนาแพลตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์ต้นแบบ (Prototype Development) พร้อมด้วยการนำเสนอผลงาน (Pitch Presentation) จากผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งจะมีการแข่งขันรอบสุดท้าย “Prototype Coding Challenge” ระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมแมริออท เชียงใหม่ โดยการแข่งขันจะเน้นการพัฒนาโซลูชัน แพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์ ตามบริบทอุตสาหกรรมหลักของเชียงใหม่  ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตอัจฉริยะและการจัดการอสังหาริมทรัพย์ นวัตกรรมด้านเกษตรอัจฉริยะและการจัดการห่วงโซ่อุปทาน การผลิตอัจฉริยะ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ การเงินอัจฉริยะ การจัดการสินทรัพย์และการบริหารหนี้สิน โดยการแข่งขันครั้งนี้มีเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 180,000 บาท พร้อมทั้งโอกาสร่วมลงทุนรวมมูลค่า 4 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบสถานะ (Due Diligence)

ในขณะเดียวกัน Hylife Innovation Excellence Awards 2025 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการเชิงนวัตกรรมใน 3 หมวดอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมการผลิต การจัดการสินทรัพย์และบริหารหนี้สิน โครงการนี้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ถึง 16 ตุลาคม 2568 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักประกอบด้วย ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาทและจัดตั้งบริษัทไม่เกิน 3 ปี มีสมาชิกในทีมไม่น้อยกว่า 3 คน สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย จะได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ผ่านการนำเสนอแผนธุรกิจต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจและการลงทุนระดับนานาชาติ พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 240,000 บาท และโอกาสร่วมลงทุนรวมมูลค่า 3 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบสถานะ (Due Diligence)

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดเสวนาในหัวข้อ “ไขโจทย์เชียงใหม่ด้วยพลังสตาร์ทอัพ นวัตกรรม และเทคโนโลยี” โดยผู้บริหารจากกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์และพันธมิตรได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของเมืองและชุมชน พร้อมเปิดพื้นที่แบ่งปันความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ นางสาว อติกานต์ สุทธิวงษ์ นักส่งเสริมนวัตกรรม ฝ่ายส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ บรรยายในหัวข้อ “โอกาสของธุรกิจสตาร์ทอัพในเชียงใหม่” และนาย คริสโตเฟอร์ มอสซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มะนาว ซอฟต์แวร์ จำกัด บรรยายในหัวข้อ “นักพัฒนาซอฟต์แวร์จะอยู่รอดอย่างไรในยุคที่ AI เขียนโค้ดได้” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ก่อนปิดท้ายด้วยช่วงการสร้างเครือข่ายเพื่อเปิดโอกาสในการพบปะ พูดคุย เพื่อต่อยอดความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นกันเอง

ทั้งนี้ โครงการทั้งสองได้รับการสนับสนุนจากภาคีองค์กรชั้นนำของประเทศ อาทิ เทศบาลนครเชียงใหม่, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU STeP), สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย, บริษัท มะนาว ซอฟต์แวร์ จำกัด และ อินไซด์ล้านนา

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและการสนับสนุนจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์เชื่อมั่นว่าเวทีนวัตกรรมทั้งสองจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการจุดประกายแนวคิดใหม่ สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ อีกทั้งปักหมุดเชียงใหม่ในแผนที่นวัตกรรมระดับโลกอย่างแท้จริง

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมได้ที่

hackathon.hylifegroup.com สำหรับ Hylife Hackathon 2025

innovation.hylifegroup.com สำหรับ Innovation Excellence Awards 2025
และติดตามข่าวสารผ่านเพจ Facebook: Hylife Group Thailand.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ