หยก ปนันรัตน์ ประกาศลั่น “ไม่มีบ้านใหญ่ ไม่มีนายทุน มีแต่นายใหญ่ชื่อพี่น้องชาวนครเชียงใหม่” ปักธงการเมืองอิสระ โค้งสุดท้ายเลือกตั้งนครเชียงใหม่

เชียงใหม่ — โค้งสุดท้ายสู่การเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ปี 2568 กำลังร้อนแรงอย่างถึงที่สุด เมื่อ หยก ปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หมายเลข 1 ปรากฏตัวในเวทีปราศรัยใหญ่ ณ ศูนย์ประชุมเชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ค่ำวันที่ 8 พฤษภาคม ท่ามกลางเสียงตบมือกึกก้องจากผู้สนับสนุนที่หลั่งไหลเข้าร่วมแน่นกว่า 2,000 คน

ภายใต้เสื้อสีแดงเพลิงและดวงตาที่แน่วแน่ หยกประกาศจุดยืนอย่างชัดเจน เป็นผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรค ไม่แตกสาขา ไม่เป็นนอมินี ไม่รับใช้กลุ่มทุน หรือบ้านใหญ่ใดทั้งสิ้น

“อดีตหยกอาจเคยสวมเสื้อพรรคการเมือง เพราะหวังจะขับเคลื่อนเมืองด้วยพลังที่ใหญ่กว่า แต่เมื่อวันหนึ่ง หยกถูกกดดันให้ ‘ถอดเสื้อ’ เพื่อไปรับใช้บ้านใหญ่ หยกจึงตัดสินใจ… ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคในทันที เพราะถ้าต้องแลกหัวใจของพี่น้องชาวนครเชียงใหม่กับอำนาจของใคร หยกเลือกพี่น้องชาวนครเชียงใหม่เสมอ”

หยกเล่าว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เธอลงพื้นที่พบปะพี่น้องชาวนครเชียงใหม่ทุกชุมชน เดินเข้าไปในบ้านหลังเล็ก ซอกซอยที่ถูกมองข้าม ได้ฟังเสียงสะท้อนจริงจากผู้คนที่ถูกทอดทิ้ง

“หยกไม่มีนายทุน ไม่มีเครือข่ายผลประโยชน์คอยหนุนหลัง หยกมีแค่นายใหญ่เพียงคนเดียว คือพี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกชุมชน ทุกคลัง ทุกครัวเรือน ที่มอบความรักและศรัทธาให้ หยกจะไม่มีวันทรยศสิ่งนั้น”

บนเวทีปราศรัย หยกชี้ว่ารูปแบบการเมืองที่กดทับพี่น้องชาวนครเชียงใหม่มานาน ไม่ว่าจะเป็นการครอบงำจากส่วนกลาง หรือการผูกขาดงบประมาณโดยกลุ่มอิทธิพล ต้องถูกปลดล็อกด้วยพลังจากพี่น้องชาวนครเชียงใหม่ในท้องถิ่น โดยนโยบายของเธอจะยึดแนวทาง “ล่างขึ้นบน” ฟังเสียงพี่น้องชาวนครเชียงใหม่เป็นหลัก ไม่ถูกสั่งจากใครที่ไม่รู้จักเมืองนี้อย่างแท้จริง

“หยกจะไม่ให้ใครมานั่งสั่งบนหัวเราอีกต่อไป ไม่ว่าจะ IO ที่ปั่นข่าวเท็จ หรือคนมีอำนาจที่ยื่นข้อเสนอแสนหวาน… หยกปฏิเสธหมด เพราะหยกมีสัจจะกับพี่น้องชาวนครเชียงใหม่ ไม่ใช่กับผู้มีอำนาจ”

แม้ในสนามการเมืองนี้จะเต็มไปด้วยการใส่ร้ายและความพยายามล้มล้างชื่อเสียงจากฝ่ายตรงข้าม หยกยืนยันจะไม่ตอบโต้อย่างหยาบคาย แต่จะสู้ด้วยความจริง ความตั้งใจ และหัวใจที่ยังรักเมืองนี้ไม่เคยน้อยลง

“หยกอาจไม่มีบ้านใหญ่ แต่หยกมีหัวใจใหญ่ที่อยากเห็นเมืองนี้ดีขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ดีในป้ายหาเสียง”

หยกทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าจะผลจะออกมาเป็นอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “การเมืองอิสระ” ที่แท้จริงของเชียงใหม่ ที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้เงาใครอีกต่อไป