ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ นำคณะสื่อฯ เชียงใหม่ ดูงานสนามบินสุวรรณภูมิ และจังหวัดชลบุรี
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ประจำปี 2567 นำคณะสื่อมวลชนจากจังหวัดเชียงใหม่กว่า 40 คน ศึกษาดูงานสนามบินสุวรรณภูมิ และพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในระหว่างวันที่ 20 – 22 สิงหาคม 2567
นาวาอากาศโทรณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 เป็นอาคารสูง 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 251,400 ตารางเมตร ประกอบด้วยหลุมจอดอากาศยานจำนวน 28 หลุมจอด อาคาร SAT-1 เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลักด้วยอุโมงค์ใต้ดิน จำนวน 8 ช่อง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร รับส่งผู้โดยสารด้วยระบบรถไฟฟ้าใต้ดินอัตโนมัติไร้คนขับ (Automated People Mover : APM) จำนวน 4 ช่อง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน รวมทั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและตรวจจับวัตถุระเบิด จำนวน 2 ช่อง และระบบถนนให้บริการเขตการบิน จำนวน 2 ช่อง ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคนต่อปี
จากนั้นได้เข้าชมกระบวนการผลิตอาหารบนเครื่องบินที่ครัวการบินไทย พร้อมรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการในเครื่องบิน มีนายวัชรพงศ์ เมฆผึ้ง จากครัวการบินไทย แลเป็นเลขาธิการสมาพันธ์เซฟประเทศไทย เป็นวิทยากรให้ความรู้ รวมทั้งมีการอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เช่น Chat GPT มาประยุกต์ใช้ในงานด้านสื่อสารมวลชน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ เป็นสถานที่ให้ความรู้ทางด้านชีววิทยาเกี่ยวกับวงจรชีวิตของเต่าทะเล มีบ่ออนุบาลเต่าทะเลตั้งแต่ออกจากไข่ จนโตพอที่จะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ มีโรงพยาบาลเพื่อรักษาเต่าที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นโรค พร้อมร่วมกันปล่อยลูกเต่าลงทะเลอีกด้วย
จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมชมเรือหลวงช้าง เป็นเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งลำเลียงอีกทั้งเป็นเรือบัญชาการ การค้นหาและกู้ภัยทางทะเล และพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ รวมทั้งสนับสนุนการช่วยเหลือกู้ภัยเรือดำน้ำ ซึ่งเป็นภารกิจในการป้องกันประเทศ อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย การอพยพประชาชน สนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเล และท่าเรือ ซึ่งเป็นภารกิจในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นงานที่สำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน
