เวียตเจ็ทขยายบริการสู่สากล มุ่งเป็น “ผู้นำด้านการขนส่งทางอากาศ” เชื่อมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ระดับโลก

เวียตเจ็ทขยายบริการสู่สากล มุ่งเป็น “ผู้นำด้านการขนส่งทางอากาศ” เชื่อมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ระดับโลก 

เครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วได้กลายเป็นจุดเด่นของสายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ด้วยความมุ่งมั่นให้บริการเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางใหม่ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง การขยายตัวดังกล่าวมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว รวมถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมให้เฟื่องฟูในทุกประเทศปลายทางที่เวียตเจ็ทให้บริการ ความสำเร็จของเวียตเจ็ทในตลาดระหว่างประเทศเน้นย้ำถึงชื่อเสียงของสายการบินฯ ในฐานะ “ผู้นำทางอากาศ” อีกทั้งความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินเพื่อเชื่อมต่อเวียดนามและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่จุดหมายปลายทางกว่า 100 แห่งทั่วโลก 

ขึ้นแท่นผู้นำด้านการขนส่งทางอากาศในตลาดต่างประเทศ 

เวียตเจ็ทรายงานถึงจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นกว่า 3.5 ล้านคนในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งคำนวณเป็นอัตรากว่า 50% จากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งหมดกว่า 6.9 ล้านคนที่เดินทางเข้าและออกจากเวียดนาม ทำให้เวียตเจ็ทกลายเป็นสะพานเชื่อมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับโลก 

ในไตรมาสที่สองของปี 2566 สายการบินได้เปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ 11 เส้นทางสู่ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยขยายเครือข่ายเที่ยวบินเป็น 120 เส้นทาง (เส้นทางบินระหว่างประเทศ 75 เส้นทาง และเส้นทางบินภายในประเทศ 45 เส้นทาง) ด้วยเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุมของสายการบินฯ ส่งผลให้การเดินทางทางอากาศเป็นวิธีการขนส่งที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุดสำหรับการเดินทางประเภทบุคคลและการเดินทางเพื่อธุรกิจระหว่างเวียดนามและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงตลาดระหว่างประเทศที่มีความสำคัญ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย คาซัคสถาน เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และอื่นๆ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียตเจ็ทได้ขยายเครือข่ายเส้นทางบินสู่อินเดียซึ่งมีประชากรหนาแน่นกว่า1.4 พันล้านคน โดยสายการบินฯ ให้บริการ 7 เส้นทางบินเชื่อมต่อฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้กับ 4 เมืองใหญ่ของอินเดีย ได้แก่ มุมไบ นิวเดลี อาห์เมดาบัด และโคจิ การเข้าสู่ตลาดอินเดียของเวียตเจ็ทได้เพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างเวียดนามและอินเดียทั้งหมดในช่วงหกเดือนแรกของปี 2566 กว่า 300,000 คน ซึ่งมีอัตราสูงกว่าจำนวนผู้โดยสาร 70,000 คนในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ถือเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบห้าเท่า 

นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทได้เปิดเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ 3 เส้นทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบินตรงจากโฮจิมินห์ซิตี้ เมืองแห่งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของเวียดนาม สู่ 3 เมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ได้แก่ ซิดนีย์ เมลเบิร์น และบริสเบน 

จากข้อมูลของสายการบินฯ ปี  2565 มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศบนเส้นทางเวียดนาม-ออสเตรเลียเฉลี่ยเพียง 500,000 คนต่อปี อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เวียตเจ็ทเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทำให้คาดการณ์ได้ถึงจำนวนผู้โดยสารจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ในขณะเดียวกัน เวียตเจ็ทพร้อมจะเปิดตัวเส้นทางที่สี่สู่ออสเตรเลียเชื่อมต่อระหว่างโฮจิมินห์ซิตี้ และ เพิร์ธ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เวียตเจ็ทให้บริการด้วยเครือข่ายเส้นทางบินที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเวียดนาม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลีใต้ รวม 14 เส้นทาง ไต้หวัน รวม 8 เส้นทาง ญี่ปุ่น รวม 7 เส้นทาง และยังคงเดินหน้าขยายเส้นทางบินไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 50 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ เน้นย้ำเวียตเจ็ทในฐานะสายการบินข้ามชาติและผู้นำทางอากาศในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก 

บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทซึ่งประกอบด้วยราคาบัตรโดยสารที่สมเหตุสมผลและบริการที่มีคุณภาพสูงมีส่วนช่วยในการเชื่อมโยงวัฒนธรรม เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเวียดนามกับประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก และกระชับความสัมพันธ์ของผู้คนในภูมิภาคให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวและเสริมสร้างการลงทุนและการค้าทวิภาคี รวมถึงส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศ 

ด้วยกลยุทธ์ของนวัตกรรมที่มีการพัฒนาอยู่เสมอและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เวียตเจ็ทได้เปิดตัวชั้นที่นั่งธุรกิจพร้อมสิทธิพิเศษมากมายแก่ผู้โดยสาร รวมถึงโปรแกรมสมาชิก SkyJoy ซึ่งดึงดูดสมาชิกกว่า 8 ล้านคน พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้ให้บริการด้วยอากาศยานแอร์บัส A330 ที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่ ออสเตรเลีย อินเดีย คาซัคสถาน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ 

เวียตเจ็ทมุ่งมั่นอุทิศต่อชุมชนด้วยการเสนอบริการเที่ยวบินฟรีและบัตรโดยสารราคาประหยัดแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยยึดมั่นในปณิธานหลักของสายการบินฯ คือ บริการเที่ยวบินที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้เพื่อการเดินทางทั่วโลก 

เป้าหมายครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 120% รายได้กว่า 87% 

รายได้รวมของเวียตเจ็ทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 87% จากปีก่อนหน้าและคิดเป็น 120% ของเป้าหมายครึ่งแรก ในส่วนรายได้เสริมยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่สูงเกือบ 378.68 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและคิดเป็น 40% ของรายได้ทั้งหมด โดยกำไรหลังหักภาษีรวมอยู่ที่ 16.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินอย่างปลอดภัยกว่า 65,900 เที่ยวบิน ขนส่งผู้โดยสารกว่า 12.1 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สายการบินฯ เป็นผู้นำตลาดในด้านจำนวนผู้โดยสารทั้งเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ 

อัตราที่นั่งที่ถูกใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 85% ในขณะที่อัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิคอยู่ที่99.63% ฝูงบินของเวียตเจ็ทประกอบด้วยอากาศยาน 103 ลำรวมถึงอากาศยานลำตัวกว้าง 7 ลำ พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทเสริมทัพฝูงบินใหม่โดยสั่งซื้ออากาศยานจำนวนมากจากแอร์บัสและโบอิ้ง สร้างความได้เปรียบในแง่ประสิทธิภาพการดำเนินงานและการเงิน 

เวียตเจ็ทให้ความสำคัญกับการพัฒนาการบริการอย่างยั่งยืนเพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางด้วยเที่ยวบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งหวังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและโรคระบาด รวมถึงสร้างคุณค่าที่ดีขึ้นแก่โลก 

นอกจากนี้ สายการบินฯ ประยุกต์ใช้อุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ถาดอาหารที่ทำจากไม้ไผ่และใบหมากซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติจากท้องถิ่น รวมถึงการผสานใช้เทคโนโลยีกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล มุ่งสู่การดำเนินงานโดยปราศจากกระดาษ พร้อมทั้งยกระดับบริการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางอ้อม 

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 สินทรัพย์รวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่ามากกว่า 3.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนและอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 1.2 และ 1.5 ตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระดับที่ดีของอุตสาหกรรมการบิน 

ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสายการบินทั้งหมดในเวียดนาม โดยเฉพาะบริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ พิจารณาจากผลการดำเนินงานทางธุรกิจเชิงบวกในช่วงครึ่งปีแรก เวียตเจ็ทคาดว่าจะบรรลุผลสำเร็จยิ่งขึ้นจากแผนเดิมของปี 2566 สานต่อการเป็นส่วนช่วยในการฟื้นตัวและการเติบโตของการท่องเที่ยว การลงทุน และเศรษฐกิจโดยรวม