เวียตเจ็ทเริ่มให้บริการเส้นทางบินใหม่ โฮจิมินห์ซิตี้-จาการ์ตา ประธานสมัชชาแห่งชาติเวียดนามเยือนอินโดนีเซีย

สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) เริ่มให้บริการเส้นทางตรงระหว่างโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นการให้บริการเส้นทางบินตรงลำดับที่สามบนเครือข่ายเส้นทางบินระหว่าง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ของเวียตเจ็ท 

พิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางบิน โฮจิมินห์ซิตี้ – จาการ์ตา ได้รับเกียรติจาก นาย Vuong Dinh Hue ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม และ นาย Arsjad Rasjid ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย พร้อมด้วยตัวแทนผู้นำและองค์กรของทั้งสองประเทศ พิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้กรอบของฟอรัมกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามและอินโดนีเซีย 

ด้วยการให้บริการด้วยความถี่ถึง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมงบนอากาศยานที่ทันสมัย เที่ยวบินใหม่ของเวียตเจ็ทจึงเป็นตัวเลือกการเดินทางในอุดมคติสำหรับการเดินทางระหว่างโฮจิมินห์ซิตี้และกรุงจาการ์ตา สองเมืองศูนย์กลางชั้นนำของเวียดนามและอินโดนีเซียที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นและเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ 

นาย Putu Eka Cahyadi ผู้อำนวยการฝ่ายการขนส่งทางอากาศของ DGCA อินโดนีเซียกล่าวในพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ว่า “เส้นทางบินใหม่ของเวียตเจ็ทจะส่งผลดีอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมการบินและการเดินทางระหว่างอินโดนีเซียและเวียดนาม ทั้งสองประเทศต่างมีตำแหน่งสำคัญในกลุ่มประเทศอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราขอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและแสดงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนสายการบินอย่างเวียตเจ็ท สำหรับความพยายามในการยกระดับการเชื่อมต่อทางอากาศระหว่างอินโดนีเซียและเวียดนาม” 

นาย Nguyen Thanh Son รองประธานกรรมการ สายการบินเวียตเจ็ท กล่าวว่า “เวียตเจ็ทมีความยินดีที่ได้เริ่มให้บริการเส้นทางบินใหม่ที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างจาการ์ตาและโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งจะทำให้ชาวเวียดนามและอินโดนีเซียสามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างสะดวกสบายด้วยบัตรโดยสารในราคาที่เข้าถึงได้กว่าที่เคย การเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างเวียดนามและอินโดนีเซียจะสร้างโอกาสมากมายสำหรับการเดินทางที่ราบรื่น ความร่วมมือทางธุรกิจ และส่งเสริมการค้าทวิภาคี การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม” 

นาย Dwi Ananda Wicaksana ผู้จัดการท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา กล่าวแสดงความยินดีกับสายการบินเวียตเจ็ทในโอกาสเปิดเส้นทางบินใหม่ ว่า “เรายินดีต้อนรับเวียตเจ็ทในฐานะสายการบินใหม่ซึ่งเริ่มให้บริการเที่ยวบินสู่ท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา เราเชื่อว่าความมุ่งมั่นในการให้บริการ ราคาบัตรโดยสารที่เข้าถึงได้ พร้อมด้วยบริการเที่ยวบินคุณภาพสูงของสายการบินฯ จะทำให้เวียตเจ็ทจะสามารถให้บริการผู้โดยสารชาวอินโดนีเซียและผู้โดยสารระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มเติมแก่สนามบินของเรา รวมถึงส่งเสริมการการเดินทางระหว่างสองประเทศ การเดินทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และทั่วโลก อีกทั้งเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศเวียดนามที่กว้างขวางของเวียตเจ็ทจะมอบทางเลือกการเดินทางเพิ่มเติมแก่ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งประเทศเวียดนาม” 

เที่ยวบินบนเส้นทางบินใหม่ โฮจิมินห์ซิตี้ – จาการ์ตาของเวียตเจ็ทออกเดินทางจากโฮจิมินห์ซิตี้ เวลา 09:35 น. และเดินทางถึงจาการ์ตา เวลา 12:30 น. ขณะเดียวกัน เที่ยวบินขากลับออกเดินทางจากจาการ์ตา เวลา 13:30 น. และเดินทางถึงโฮจิมินห์ซิตี้ เวลา 16:40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นทั้งหมด) 

เพื่อเฉลิมฉลองเส้นทางบินใหม่ เวียตเจ็ทเสนอบัตรโดยสารราคาพิเศษสำหรับเดินทางบนเส้นทางบินระหว่างโฮจิมินห์ซิตี้ และ จาการ์ตา โฮจิมินห์ซิตี้/ฮานอย – บาหลี ในราคาเริ่มต้นเพียง 0 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราคาไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) โดยเลือก “ค้นหาค่าโดยสารที่ต่ำที่สุด” เมื่อสำรองบัตรโดยสารทุกวันพุธ พฤหัสบดี และศุกร์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงปลายปี 2566 เดินทางได้ระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) พร้อมกันนี้ สายการบินฯ เสนอประกันภัยการเดินทาง Sky Care ฟรีสำหรับผู้โดยสารทุกท่านที่เดินทางบนเครือข่ายเส้นทางบินทั้งหมดเพื่อมอบประสบการณ์การการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุขและความปลอดภัย 

นอกเหนือจากการเปิดเส้นทางบินใหม่ระหว่างโฮจิมินห์ซิตี้และจาการ์ตา สายการบินฯ เตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบินระหว่างบาหลี โฮจิมินห์ซิตี้ และฮานอย โดยจะให้บริการด้วยความถี่ 84 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป โดยเส้นทางบินตรงเหล่านี้จะมอบความสะดวกสบายและตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลายแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น