ชวนเที่ยวเชียงรายหน้าหนาว ขึ้นดอยดูทะเลหมอก และท่องเที่ยวสุดชิวในจังหวัดเชียงราย-พะเยา

0

เที่ยวจังหวัดเชียงรายและพะเยา ในช่วงหน้าหนาว เที่ยวน้ำตกภูซาง หรือน้ำตกอุ่น ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูซาง มีเส้นทางชมป่าต้นน้ำ และป่าดงดิบ อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติภูซางแค่1 กิโลเมตรเท่านั้น จากเส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งภูชี้ฟ้า เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวกันมากในช่วงฤดูหนาว จุดเด่นคือ ชมพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของวันใหม่ และทะเลหมอกที่สวยงาม กับบรรยากาศที่เย็นสบาย

การเดินขึ้นภูชี้ฟ้า มีระยะทางประมาณ800เมตร ทางลาดชัน แต่พอขึ้นไปถึงแล้วหายเหนื่อย เพราะยอดภูสวยมากจริงๆ ภูชี้ฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของดอยผาหม่น อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวกับและมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในประเทศไทยมาพร้อมด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล ภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางราว ๆ 1,200-1,628 เมตร

นอกจากเที่ยวดอยแล้ว เชียงรายยังมีวัดในเชียงรายที่สวยงาม และมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน  

วัดพระธาตุจอมจ้อ เป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม และยังเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเทิง   พระธาตุจอมจ้อเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิที่อยู่คู่เมืองเทิงมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ประวัติพระธาตุจอมจ้อจากคัมภีร์เก่าแก่ที่ตั้งโดยนักปราชญ์ผู้ชำนาญในด้านภาษาบาลีของอำเภอเมืองเทิง (เมืองเถิง) ในสมัยนั้นได้กล่าวว่า ในกาลสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาสุวรรณภูมิ พระองค์ได้พักอยู่ใต้ต้นอโศกบนดอยใกล้น้ำแม่อิง มีพญานาคตนหนึ่ง รู้ว่าพระพุทธองค์เสด็จมาจึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลถามความต่างๆแล้วจึงนำจ้อคำ ๓ ผืนแล้วจ้อแก้วอีก ๓ ผืน มาถวายพระพุทธองค์ พระอานนท์จึงขอทูลพระธาตุให้พระยานาคตนนั้น พระพุทธองค์จึงนำพระหัตถ์ลูบพระเศียรได้พระเกศาธาตุเส้นหนึ่ง จึงโปรดให้พญานาคไว้พญานาคจึงนำความแจ้งให้เจ้าเมืองเทิงสร้างพระธาตุไว้ที่กลางดอยเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุ ต่อมาจึงมีการขนานนามพระธาตุนั้นว่า พระธาตุจอมจ้อ

อีกวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยงทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ คือ วัดร่องเสือเต้น จังหวัดเชียงราย  ชมความงามของพระอุโบสถสีน้ำเงิน  สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ที่มีความสวยงดงามแปลกตา ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย

วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่บ้านร่องเสือเต้น ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงของจังหวัดเชียงราย ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่พลาดที่จะแวะมาชมความงดงามวิจิตรตระการตาของสถาปัตยกรรมและพุทธศิลป์ไทยประยุกต์ที่รังสรรค์ขึ้นมาจากฝีมือ “สล่านก” หรือนายพุทธ กาบแก้ว ลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ภายในบริเวณวัดนั้นจะทาด้วยสีน้ำเงินสดใส ดูแปลกตาแตกต่างจากวัดทั่วๆ ไปที่เราคุ้นเคยกัน ทั้งตัวพระอุโบสถ องค์เจดีย์ หรือซุ้มประตูต่างๆ ซึ่งจากข้อมูลบอกว่า สีน้ำเงินฟ้า แสดงถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ขจรขจายไปทั่วโลก ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่เป็นจริงตามเหตุและผลเปรียบเหมือนดังท้องฟ้าที่สดใส

ภายในพระวิหารมีภาพเขียนฝาผนังเป็นลวดลายวิจิตรงดงาม แสดงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จุดเด่นอยู่ที่พระประธานสิงห์หนึ่ง สูง 6.5 เมตร หน้าตักกว้าง 5 เมตร มีพระรอดลำพูน จำนวน 84,000 องค์ พร้อมด้วยแก้วแหวนเงินทองใต้ฐานพระพุทธรูป และได้รับพระราชทานนามและพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก บรรจุที่พระเศียร ได้รับพระราชทานนามว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดก็ยังมีสถาปัตยกรรม และศิลปะไทยประยุกต์ที่สวยงามให้เราได้เดินชมกันอีกด้วย

อีกวัดที่อยากจะชวนเที่ยว ตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดเชียงราย คือวัดพระแก้วเชียงราย วัดงามคู่เมืองเชียงราย

ซึ่งวัดพระแก้วนี้เป็นวัดสำคัญประจำจังหวัดเชียงราย ถือเป็นวัดที่ได้มีการค้นพบ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดรพะศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานครในปัจจุบัน เดิมชื่อวัดป่าญะ หรือวัดป่าเยียะ เนื่องจากภายในวัดเดิมมีไม้เยียะขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ในอดีตพระแก้วมรกต ได้ถูกซ่อนไว้ในองค์เจดีย์ภายในวัด ต่อมาปี พ.ศ.1977 ฟ้าได้ผ่าองค์เจดีย์ถล่มลงมา จึงได้พบองค์พระแก้วมรกตที่อยู่ภายในองค์เจดีย์ หลังจากนั้นได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานตามเมืองต่างๆ จนถึงกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

ปัจจุบันองค์พระแก้วที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระแก้วเชียงราย เป็นองค์จำลองที่ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ และได้เรียกกันว่า “พระหยกเชียงราย” และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองเชียงรายมานับแต่นั้นเป็นต้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *