สมาคมร้านอาหารเชียงใหม่ ยื่นจดหมายถึงนายกฯ ผ่านผู้ว่าเชียงใหม่กรณีห้ามนั่งกินในร้าน
นายธนิต ชุมแสง นายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ พร้อมด้วยตัวแทนสมาคมฯยื่นจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ผ่าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอทบทวนมาตรการห้ามนั่งบริโภคในร้าน
โดยข้อความในจดหมายระบุว่า…ขอทบทวนมาตรการบังคับให้ร้านอาหารจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น
ตามมติของที่ประชุม ศบค.ครั้งที่ 6/2564 ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธาน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการมาตรการบังคับและควบคุมโรคโควิด-19 โดยที่ประชุมเห็นชอบ กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) นนทบุรี ชลบุรี ปทุมธานี สมุทณปราการ และ เชียงใหม่ โดยมีมาตรการบังคับให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น และเปิดให้บริการได้ จนถึงเวลา 21.00 น.
จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้สถานการณ์ได้มีแนวโน้มของตัวเลขผู้ติดเชื้อcovid19 ดีขึ้นโดยตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากเดิมตัวเลขหลักร้อย ลดลงสู่ตัวเลขหลักสิบ แต่ไม่ทราบว่าจะมีตัวเลขที่ยังไม่รายงานเท็จจริงหรือไม่ จึงเป็นสาเหตุให้จังหวัดเชียงใหม่ถูกนำไปอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม
จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนร้านอาหารทุกประเภทรวมกันกว่า14,751ร้าน (อ้างอิงข้อมูลจาก www.wongnai.com) ผู้ประกอบการและพนักงานลูกจ้างกว่า 80,000 คน ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ ทางรัฐบาลมีการเยียวยาให้ประชาชนในกลุ่มนี้อย่างไร
จังหวัดเชียงใหม่ ที่ผ่านมาร้านอาหารทั่วไป ร้านข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารริมถนนฯลฯ ยังไม่มีรายงานว่าเป็นแหล่งแพร่เชื้อ เพราะร้านส่วนใหญ่มีมาตรการควบคุมการระบาดที่ดี โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมอนามัย คอยกำกับดูแลตลอดและในขณะที่ประชาชนในจังหวัดได้มีความตระหนักและการป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีขณะเข้าใช้บริการ
จึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์ ทบทวนมาตรการดังกล่าว โดยให้นั่งบริโภคอาหารที่ร้านได้ และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.