รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่

0

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ พร้อมชูนโยบายนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ และขอให้เพิ่มทักษะการจดบัญชีครัวเรือนเพื่อการเก็บออม

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.20 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ พร้อมพบปะพูดคุยกับผู้ต้องขัง และมอบสิ่งของเยี่ยมไข้ผู้ต้องขังหญิงที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยภายในทัณฑสถาน และเยี่ยมชมการฝึกหัดงานอาชีพ ตัดเย็บเสื้อผ้า เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ต้องขังหญิง โดยมีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับฟังผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค การปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมอบนโยบายการดำเนินงานนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังเนื่องจากเห็นว่า จุดแข็งของราชทัณฑ์ คือการมีแรงงานที่มีคุณภาพ ผ่านการฝึกอบรม มีทักษะที่เชี่ยวชาญ ทั้งนี้จะได้มีการประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อร่วมสนับสนุน รับซื้อ ขยายตลาด รวมถึงการรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปทำงานด้วย โดยภาครัฐจะกำหนดมาตรการภาษี เพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่นายจ้างและเจ้าของผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการจ้างงานผู้พ้นโทษ และเป็นการส่งเสริมผู้พ้นโทษให้ได้มีโอกาสทางสังคมมากยิ่งขึ้นและยังเป็นการลดการกระทำผิดซ้ำ

สำหรับทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ปัจจุบันมีผู้ต้องขังหญิงในการควบคุม จำนวน 2,284 คน อำนาจการควบคุมตั้งแต่ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีไปจนถึงโทษสูงสุดประหารชีวิต การจัดการพัฒนาอาชีพผู้ต้องขัง จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถพัฒนาอาชีพผู้ต้องขังได้ อีกทั้งเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพสุจริตหลังพ้นโทษอย่างหลากหลาย ได้แก่ การฝึกวิชาชีพนวดแผนไทยและสปา อาหารไทย ขนมไทย เสริมสวย การทอผ้าไหม ทอผ้าพื้นเมือง การตัดเย็บเสื้อผ้า ตลอดจนการฝึกวิชาชีพระยะสั้น ทั้งนี้ยังมีโครงการสำคัญ คือ โครงการฝึกวิชาชีพทอผ้าไหมตามโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนนักโทษ เป็นนักทอ สู่นักปราชญ์” โดยได้ร่วมกับสถาบันหม่อนไหมแห่งชาติ

ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและสิ่งทอ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการฝึกวิชาชีพได้นำออกจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไป นอกจากนี้ยังมีโครงการเด่นคือ โครงการนำร่องของการวิชาชีพลักษณะพิเศษ ภายใต้ความร่วมมือจากบริษัท Carcel Made in Prison – IVS ประเทศเดนมาร์ก ในการศึกษาเพื่อพัฒนารูปแบบในการสร้างรายได้และเสริมทักษะอาชีพ และศูนย์ฝึกทักษะอาชีพ “เรือนพระธำมรงค์” เพื่อฝึกทักษะอาชีพนวดแผนไทยและสปา โดยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดีอีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ