เชียงใหม่ เตรียมพร้อมเปิด On Site 17 พ.ค. นี้ ตามแนวทาง “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน”

0

ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เผยสถานศึกษาเตรียมความพร้อมเปิดการเรียนการสอนแบบปกติ (On Site) ภาคเรียนที่ 1/2565 ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ตามแนวทางการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ด้วยหลักการ “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน”

ดร.ยุพิน บัวคอม ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบปกติ (On Site) ในภาคเรียนที่ 1/2565 โดยจะกลับมาเปิดเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้ หลังต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นมาเกือบ 2 ปี ว่า การเปิดเรียนแบบ On Site จะดำเนินการตามแนวทางการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ด้วยหลักการ “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน” หรือ 3T 1V คือ T : Thai Stop Covid Plus (TSC+) การประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน, T : Thai Save Thai (TST) นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ, T : Test ตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม เช่น ตรวจหาเชื้อด้วย ATK เมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง, V : Vaccine ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และนักเรียนอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ผ่านระบบสถานศึกษา และเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้านทุกแห่ง และหากเปิดเทอมแล้วพบว่ามีกลุ่มเด็กจำนวนมากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะได้มีการจัดบริการฉีดวัคซีนที่สถานศึกษานั้น ๆ อีกครั้ง

โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 พบว่านักเรียนกลุ่มอายุ 5-11 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วจำนวน 67,202 คน คิดเป็นร้อยละ 71.28 ,เข็มที่ 2 จำนวน 7,708 คน คิดเป็นร้อยละ 8.18 ส่วนนักเรียนกลุ่มอายุ 12-17 ปี ข้อมูล ณ วันที่ 27 เมษายน 2565 พบว่ามีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จำนวน 100,411 คน คิดเป็นร้อยละ 71.40 และมีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 แล้วจำนวน 2,783 คน ซึ่งจากการสำรวจข้อมูล ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 พบว่ามีนักเรียนประสงค์ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ขนาดครึ่งโดส จำนวน 43,982 คน

ทั้งนี้ ในการเปิดการเรียนการสอนแบบ On Site นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา จะต้องปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเคร่งครัด คือ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดการแออัด และทำความสะอาด, 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ได้แก่ ดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว ทานอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออก สำรวจตรวจสอบ และกักกันตนเอง, 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา ได้แก่ การประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง ให้มีการทำกิจกรรมกลุ่มย่อย หรือ Small Bubble แทนการจีดกิจกรรมกลุ่มใหญ่ ให้จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ มีอนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน มีแผนเผชิญเหตุ และเตรียมความพร้อม School Isolation ควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนให้ปลอดภัย (Seal Rout) และแนวทาง School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยขอให้สถานศึกษาทุกแห่งดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากโรคโควิด – 19

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ